เมนู

พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] 2. ทุติยภาณวาร
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงใช้ไหล่กระแทกภิกษุ รูป
ใดใช้ไหล่กระแทก ต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตภิกษุณีเห็นภิกษุแล้ว
หลีกทางให้แต่ไกล”

เรื่องภิกษุณีใช้บาตรใส่ทารก
สมัยนั้น หญิงคนหนึ่งเป็นแม่ม่ายผัวร้าง ได้มีครรภ์กับชายชู้ นางทำแท้งแล้ว
ใช้ภิกษุณีผู้ที่ตนอุปถัมภ์ว่า “แม่เจ้า ท่านโปรดใช้บาตรใส่ทารกนี้ไป” ภิกษุณีวางทารก
ในบาตรแล้วใช้สังฆาฏิปิดเดินไป
สมัยนั้น ภิกษุผู้เที่ยวบิณฑบาตรูปหนึ่ง ตั้งใจสมาทานว่า “เรายังไม่ให้อาหาร
ที่ได้มาแก่ภิกษุหรือภิกษุณีก่อนแล้วจะไม่ยอมฉัน”
ลำดับนั้น ภิกษุนั้นได้พบภิกษุณีรูปนั้นจึงกล่าวว่า “น้องหญิงเชิญท่านรับอาหารเถิด”
นางปฏิเสธว่า “อย่าเลย พระคุณเจ้า”
แม้ครั้งที่ 2 ภิกษุรูปนั้นก็ยังกล่าวกับภิกษุณีนั้นดังนี้ว่า “น้องหญิง เชิญท่าน
รับอาหารเถิด” นางปฏิเสธว่า “อย่าเลย พระคุณเจ้า”
แม้ครั้งที่ 3 ภิกษุรูปนั้นก็ยังกล่าวกับภิกษุณีนั้นดังนี้ว่า “น้องหญิง เชิญท่าน
รับอาหารเถิด” นางปฏิเสธว่า “อย่าเลย พระคุณเจ้า”
ภิกษุนั้นบอกว่า “อาตมาตั้งใจสมาทานว่า ‘ยังไม่ให้อาหารที่ได้มาแก่ภิกษุหรือ
ภิกษุณีก่อนแล้วเราจะไม่ยอมฉัน’ เชิญท่านรับเถิด”
ครั้งนั้น ภิกษุณีนั้นถูกภิกษุนั้นรบเร้าจึงนำบาตรออกให้ดู บอกว่า “พระคุณเจ้า
ท่านจงดูทารกในบาตร ท่านอย่าบอกใครนะ”
ภิกษุจึงตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนภิกษุณีใช้บาตรใส่ทารกนำออกไป
เล่า” แล้วนำเรื่องนี้ไปบอกภิกษุทั้งหลายให้ทราบ
บรรดาภิกษุผู้มักน้อยตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนภิกษุณีใช้บาตรใส่
ทารกนำออกไปเล่า”


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :341 }


พระวินัยปืฎก จูฬวรรค [10. ภิกขุนี ขันธกะ] 2. ทุติยภาณวาร
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงใช้บาตรใส่ทารกนำไป
รูปใดใส่ ต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตภิกษุณีพบภิกษุแล้วให้นำบาตร
ออกแสดง”

เรื่องภิกษุณีแสดงก้นบาตร
สมัยนั้น พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์พบภิกษุแล้วพลิกให้ดูก้นบาตร ภิกษุทั้งหลาย
ตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉน พวกภิกษุณีฉัพพัคคีย์พบภิกษุแล้วพลิกให้ดูก้น
บาตรเล่า”
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีพบภิกษุแล้วไม่พึงพลิกให้ดูก้น
บาตร รูปใดแสดง ต้องอาบัติทุกกฏ ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตภิกษุณีเมื่อพบภิกษุ
แล้วหงายบาตรแสดง และนิมนต์ภิกษุรับอาหารที่มีในบาตรนั้น”

เรื่องภิกษุณีเพ่งดูอวัยวะเพศบุรุษ
สมัยนั้น เขาทิ้งองคชาตของบุรุษไว้ที่ถนนในกรุงสาวัตถี ภิกษุณีทั้งหลายเพ่งดู
อวัยวะเพศของบุรุษนั้น คนทั้งหลายพากันโห่ ภิกษุณีเหล่านั้นเก้อเขิน ครั้นภิกษุณี
เหล่านั้นกลับถึงสำนัก ได้บอกเรื่องนั้นให้ภิกษุณีทั้งหลายอื่นทราบ บรรดาภิกษุณี
ผู้มักน้อยตำหนิ ประณาม โพนทะนาว่า “ไฉนภิกษุณีทั้งหลายจึงเพ่งดูอวัยวะเพศของ
บุรุษเล่า”
ครั้งนั้นแล ภิกษุณีทั้งหลายเหล่านั้นบอกเรื่องนั้นแก่ภิกษุทั้งหลาย
ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ
พระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุณีไม่พึงเพ่งดูอวัยวะเพศของบุรุษ
รูปใดเพ่งดู ต้องอาบัติทุกกฏ”


{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 7 หน้า :342 }